การวิเคราะห์ปัญหาระบบดับเพลิงอัตโนมัติด้วยสารสะอาดที่ทำงานผิดปกติด้วยผังก้างปลา
Posted: 23/08/2021
ปัญหาของระบบดับเพลิงอัตโนมัติที่ทำงานผิดปกติด้วยแผนผังก้างปลา โดยมีปัจจัยหลัก 4 ปัจจัย คือ
1. ผู้ปฏิบัติงาน ไม่มีความเข้าใจในการตรวจสอบบำรุงรักษาและไม่มีคู่มือการปฏิบัติงานที่ใช้ในการตรวจสอบ เมื่อระบบดับเพลิงเกิดปัญหาจึงไม่สามารถตรวจสอบวิเคราะห์ปัญหาได้ในเบื้องต้น
2. อุปกรณ์ของระบบ ขาดการตรวจสอบดูแลบำรุงรักษาที่ต่อเนื่องทำให้ระบบเกิดการทำงานผิดพลาดได้ เมื่ออุปกรณ์ชำรุดหรือสายสัญญาณขาด หลุดและหลวม บางครั้งสัญญาณในระบบขาด ๆ หาย ๆ ทำให้ระบบทำงานเองโดยไม่ทราบสาเหตุ
3. วิธีการดำเนินงาน จากการขาดแผนการบำรุงรักษาและแผนการอบรมใช้งานที่ต่อเนื่อง ทำให้ผู้ปฏิบัติงานไม่มีความรู้ความเข้าใจในการตรวจสอบบำรุงรักษาเพื่อวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุได้
4. สภาพแวดล้อม พื้นที่การติดตั้งอุปกรณ์และตู้ควบคุมอยู่ภายนอกห้องระบบไฟฟ้าและเป็นบริเวณที่มีความชื้นจากละอองน้ำ คราบสกปรก เมื่อกระเด็นเข้าตู้ควบคุมและอุปกรณ์หรือมีความชื้นคราบสกปรกสะสม ทำให้อุปกรณ์เสียหาย ระบบเกิดการทำงานผิดพลาดได้
จากภาพแผนผังก้างปลา ผลการวิเคราะห์ปัญหาระบบดับเพลิงอัติโนมัติด้วยสารสะอาดทำงานผิดพลาดหรือระบบผิดปกติ ปรากฏว่า ผู้ปฏิบัติงานขาดคู่มือการปฏิบัติงานตรวจสอบ อุปกรณ์ในระบบมีคราบฝุ่นและเสื่อมสภาพ ขาดแผนการดำเนินงาน เช่น แผนการบำรุงรักษา แผนการอบรม สภาพแวดล้อมพื้นที่ติดตั้งตู้ควบคุมมีความชื้นและละอองน้ำ อันเนื่องจากขาดการตรวจสอบ บำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยการ จัดทำพัฒนาคู่มือการปฏิบัติงานตรวจสอบ พัฒนาแผนการดำเนินงานให้มีความถี่ในการตรวจสอบ บำรุงรักษา ให้มีการอบรมต่อเนื่อง และปรังปรุงแก้ไขระบบดับเพลิง เช่น ใส่ตู้กันน้ำ ตรวจสอบเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เสียหายพร้อมกับทดสอบระบบ
ผลการวิเคราะห์ปัญหา
การวิเคราะห์ปัญหาและการแก้ไขปัญหา โดยดูปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาและจัดการเลือกแก้ไขปัญหาที่เป็นสาเหตุหลักก่อนดังตาราง ปัจจัยของปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหา ต่อไปนี้
ตาราง ปัจจัยของปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหา
ปัจจัยที่เกิดปัญหา | สาเหตุ | แนวทางแก้ไขปัญหา |
ผู้ปฏิบัติงาน |
1.ขาดความเข้าใจในการใช้อุปกรณ์และการทำงาน 2.พนักงานที่ปฏิบัติงานกับผู้ดูแลบำรุงรักษาคนละคน 3.บุคลากรที่ดูแลบำรุงรักษาไม่เพียงพอ 4.ขาดการอบรมการใช้งานอย่างต่อเนื่อง |
1.จัดทำคู่มือการใช้งานที่ง่ายต่อการปฏิบัติงาน 2.อบรมการใช้งานกับทุกคนที่ปฏิบัติในพื้นที่เกี่ยวข้อง 3.ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการช่วยดูแลบำรุงรักษา 4.ให้มีการอบรมใช้งานอย่างต่อเนื่อง |
อุปกรณ์ในระบบ | 1.เสื่อมสภาพการใช้งานก่อนกำหนดเนื่องจากตัวอุปกรณ์เองหรือสภาพการติดตั้งชำรุด 2.ตู้ควบคุมไม่ทำงานหรือสั่งให้อุปกรณ์ในระบบทำงานเองโดยไม่มีเหตุเพลิงไหม้ |
1.เปลี่ยนอุปกรณ์และเพิ่มความถี่ในการบำรุงรักษา 2.ตรวจสอบทำความสะอาดตู้ ,ตรวจเช็คสายสัญญาณอาจหลวมหรือชำรุด, ทำการตรวจเช็คทดสอบการทำงาน |
วิธีการดำเนินงาน | 1.ไม่มีคู่มือหรือคู่มือการใช้งานซับซ้อนยุ่งยากต่อการปฏิบัติ 2.ไม่มีแผนการบำรุงรักษาและ Check list 3. ขาดงบประมาณในการดูแลบำรุงรักษา |
1.จัดทำคู่มือการใช้งานที่ดูง่ายต่อการปฏิบัติงาน 2.จัดทำแผนการบำรุงรักษาและ Check list 3. ขอความร่วมมือผู้ค้าขาย คู่ค้าให้มีการอบรมการใช้งาน |
สภาพแวดล้อม | 1.พื้นที่เสี่ยงต่อความชื้นและฝุ่น 2.มดและแมลงอื่น ๆ เข้าตู้ควบคุม 3.มีการปรับปรุงพื้นที่ทำให้ระบบขัดข้อง |
1.มีอุปกรณ์ตู้กันความชื้นและฝุ่น หรือเพิ่มความถี่การบำรุงรักษาพื้นทีที่มีความชื้นและฝุ่น 2.หมั่นตรวจสอบและทำความสะอาดตู้ควบคุม 3.ทำการแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเพื่อทำการปิดระบบชั่วคราว |
แนวทางในการพัฒนาปรับปรุงแก้ไข
จากตาราง ปัจจัยของปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำแนวทางการปรับปรุงและจัดทำแผนการตรวจสอบและบำรุงรักษาโดยมีรายละเอียดดังนี้
3.1 แผนการตรวจสอบด้วยตาเปล่า (Visual Check) โดยให้มีความถี่ในการตรวจสอบทุก 30 วัน เพื่อตรวจดูสภาพความพร้อมในการใช้งานของระบบดับเพลิงอัตโนมัติโดยมีแผนกบำรุงรักษาเป็นผู้ปฏิบัติงานตรวจสอบและบันทึกลงในใบตรวจสอบ
3.2 แผนการทดสอบการทำงานและบำรุงรักษา (Function Test & Maintenance) โดยให้มีความถี่ในการตรวจสอบทุก 6 เดือนหรือ 2 ครั้งต่อ 1 ปี ทดสอบการทำงานของระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ตรวจเช็คการทำงานของอุปกรณ์ในการตรวจจับและการแจ้งเตือน การสั่งฉีดสารพร้อมทำการบำรุงรักษาระบบให้สภาพพร้อมใช้งานได้ต่อเนื่องโดยมีแผนกบำรุงรักษาเป็นผู้ปฏิบัติงานตรวจสอบและบันทึกลงในใบตรวจสอบ
3.3 แผนการอบรม โดยให้มีความถี่ในการอบรมทุก 6 เดือนหรือ 2 ครั้งต่อ 1 ปี แบ่งเป็นการอบรมคู่มือการปฏิบัติงานตรวจสอบ การอบรมการทำงานของระบบดับเพลิงอัตโนมัติ
ทั้งนี้แนวทางการปฏิบัติงานดังกล่าวสอดคล้องตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การป้องกันและระงับอัคคีภัยในโรงงาน พ.ศ. 2552 ได้กำหนดให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานต้องตรวจสอบ ทดสอบ และบำรุงรักษาระบบและอุปกรณ์สำหรับการป้องกันและระงับอัคคีภัยให้สามารถพร้อมทำงานได้ตลอดเวลาพร้อมจัดทำแผนป้องกันและระงับอัคคีภัยในโรงงานประกอบด้วยแผนการตรวจสอบความปลอดภัยด้านอัคคีภัย แผนการอบรมเรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัย รวมทั้งมาตรฐานการป้องกันอัคคีภัย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท. 3002) กำหนดว่าให้มีการตรวจสอบและการบำรุงรักษาของระบบให้มีความพร้อมในการใช้งานได้ตลอดเวลา โดยการตรวจสอบอุปกรณ์ในระบบด้วยตาเปล่าทุก 30 วัน และอย่างน้อยทุก 1 ปี ต้องมีการตรวจสอบการทำงานของระบบและอุปกรณ์ประกอบทั้งหมดในการตรวจสอบ